SUPREME 24

   
ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ
  บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดย คุณรุ่งนภา สดงาม
สนใจร่วมกับทีมงานตัวแทนประกันชีวิต มืออาชีพ บริหารงานโดย คุณรุ่งนภา โทร. 086-3341466

ผู้เลือกเดินบนเส้นทางขายประกันชีวิต

E-mail Print PDF

ชีวิตจริงของผู้เลือกเดินบนเส้นทางขายประกันชีวิต "ไตรภพ ผลค้า"

ไตรภพ ผลค้า

"โตขึ้นอยากเป็นอะไร" น่าจะเป็นคำถามที่ครั้งหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คนต้องเคยได้ผ่านมาบ้าง และไม่ว่าจะเป็นใครก็คงต้องวาดฝันอนาคตว่าอยากทำงานที่มีเกียรติ มีคนนับหน้าถือตา แน่นอนว่าอาชีพตัวแทนขายประกันจึงเป็นอาชีพท้ายๆ ที่คนไทยอยากจะทำ เพราะทัศนคติที่ไม่สู้ดีนักต่ออาชีพนี้ แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่มองเห็นโอกาสบางอย่างในการเข้ามาเป็นตัวแทนประกัน "มุมสบายนักการเงิน" ฉบับนี้ จึงขอนำเสนอเรื่องราวและแนวคิดของ "ไตรภพ ผลค้า" ที่ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของ "อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต" หรือเอเอซีพี ที่เลือกทิ้งอาชีพที่มีเกียรติอย่างนักกายภาพบำบัด หันมาใส่สูทเดินขายประกันชีวิตอย่างเต็มตัว โดยไม่หวั่นต่อคำคัดค้านรอบด้าน โดยเฉพาะจากครอบครัว

 

จากนักเรียนทุนมาสู่การขายประกัน

ไตรภพเป็นนักศึกษาทุนเรียนดีมาตลอด 4 ปี ที่ศึกษาอยู่คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อจบการศึกษาก็ได้เข้าทำงานในโรงพยาบาลของรัฐในจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านเกิดในตำแหน่งนักกายภาพบำบัดทันที แต่เมื่อชีวิตดำเนินต่อไปถึงวันหนึ่ง จึงพบว่ารายได้ของนักกายภาพบำบัดนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของตนเอง เมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ของตนเองที่จบการศึกษามาพร้อมๆ กัน ต่างก้าวหน้าในเรื่องเงินเดือนไปมากแล้ว

เป็นเวลาประจวบเหมาะที่คุณไตรภพได้บังเอิญพบกับรุ่นพี่ที่เป็นหมอคนหนึ่ง ซึ่งขายประกันไปพร้อมๆ กันด้วย ได้แนะนำให้รู้จักกับอาชีพตัวแทนประกัน คุณไตรภพจึงตัดสินใจเดินเข้าสู่ธุรกิจประกันชีวิตในตอนนั้นเอง และแม้จะไม่มีความรู้เกี่ยวกับการประกันภัยเลย แต่เขาก็ไม่ละทิ้งความพยายาม ลองเขียนจดหมายเพื่อไปสมัครเป็นตัวแทนกับบริษัทประกันแห่งหนึ่ง และได้รับการเรียกตัวไปสัมภาษณ์จนกลายเป็นตัวแทนขายประกันชีวิตควบคู่กับอาชีพนักกายภาพบำบัดในเวลาต่อมา

"ตอนแรกที่เริ่มขายประกัน มีเสียงคัดค้านมาจากเพื่อนๆ รวมทั้งคนรอบข้างเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัว พ่อแม่พี่น้องของเราเอง แต่ด้วยความที่คิดว่าการขายประกันเป็นธุรกิจที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกคน และเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เงินทุน สามารถหาเงินได้สม่ำเสมอ จึงได้ตกลงทำ เข้าไปตอนแรกๆ ไม่รู้อะไรเลย หัวหน้าหน่วยที่เราอยู่ด้วยก็ถามว่าจะขายได้กี่คน ทีแรกก็บอกว่าน่าจะขายได้สัก 100 คน แต่จริงๆ แล้วกลับไม่เป็นอย่างนั้น ต้องใช้ความพยายามในการเข้าไปเสนอขายถึง 20 คน แล้วก็ต้องอกหักกลับมาทุกที มาได้ลูกค้ารายแรกในรายที่ 21 นี่เอง มาตอนนี้ก็ขายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 1-2 ราย ปีหนึ่งก็ 30 กว่าราย"

เป็นธรรมดาของคนทั่วไปที่ต้องการความก้าวหน้าในอาชีพการงาน หนทางหนึ่งในการสร้างความก้าวหน้านั้นให้กับตัวเองก็คือ "ย้ายค่าย" ดังนั้นเมื่อขายประกันให้กับบริษัทเดิมมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ต่อมาในปี 2532 คุณไตรภพก็ย้ายจากบริษัทเดิมมาอยู่กับบริษัทประกันชีวิตศรีอยุธยา หรือเอเอซีพีในปัจจุบันนั่นเอง โดยคุณไตรภพได้เริ่มเปิดสาขาที่มหาสารคามเป็นครั้งแรก ในขณะนั้นได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วย ทำงานควบคุมดูแลลูกหน่วยที่เป็นตัวแทน สลับกับงานประจำที่โรงพยาบาลตลอดระยะเวลา 4 ปี จนปี 2537 ก็ลาออกจากราชการเข้ามาทำธุรกิจขายประกันเต็มตัว

คุณไตรภพเล่าให้ฟังว่า "ตอนนั้นที่ตัดสินใจลาออก แม่ถึงกับร้องไห้ แถมยื่นคำขาดว่าถ้าลาออกจากราชการจะตัดแม่ตัดลูกกัน แต่ด้วยความที่เราเห็นโอกาสจากการที่จะทำรายได้ด้วยอาชีพขายประกันได้มากกกว่าการรับราชการ แถมยังเป็นอาชีพที่มีความอิสระมากกว่า เลยทำใจแข็งบอกกับแม่ว่าเดี๋ยวจะทำให้ดู ว่าอาชีพนี้ก็มีความก้าวหน้าได้ และก็ทำอาชีพนี้ต่อมา จนเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา สามารถทำรายได้ถึง 6.9 ล้านบาทแล้ว"

ตัวแทนประกัน อาชีพการเป็นผู้ให้อย่างแท้จริง

คุณไตรภพเล่าถึงมุมมองที่มีต่ออาชีพของตนว่า อาชีพตัวแทนประกันชีวิตนั้น เป็นอาชีพที่ต้องอาศัยความอดทนและอดกลั้น รวมทั้งสร้างความเข้าใจ เพื่อให้การทำธุรกิจของเราเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง เพราะธุรกิจนี้เป็นธุรกิจแห่งการปฏิเสธ ตัวแทนใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในวงการมักจะไม่คุ้นชินและท้อถอยไปในที่สุด คนที่จะเป็นคนขายประกันได้นั้นต้องมีความตั้งใจแน่วแน่ โดยเฉพาะคนที่ไม่มีทางเลือก จะสามารถทำอาชีพนี้ได้ดีที่สุด เพราะคนเหล่านี้มักจะไม่หวั่นต่ออุปสรรคใดๆ และพยายามต่อสู้จนถึงที่สุด ผู้ที่สนใจจะเป็นตัวแทนจะต้องศึกษาถึงแก่นแท้ของการประกัน มั่นใจในแนวทางการดำเนินงานของบริษัทที่ทำอยู่ จึงจะประสบความสำเร็จในอาชีพนี้

อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีทัศนคติในแง่ลบกับตัวแทนขายประกันชีวิต ซึ่งในประเด็นนี้คุณไตรภพมองว่า ทัศนคติดังกล่าวเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิด จากการที่ตัวแทนส่วนน้อยในธุรกิจที่ใช้วิธีทุจริต ทำให้เกิดภาพลักษณ์ในแง่ลบต่อส่วนรวม

"ตัวแทนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อย ได้ใช้วิธีทุจริตเพื่อหากำไรเข้าตัวเอง เกิดผลเสียต่อผู้บริโภค และขยายมาถึงภาพรวมของธุรกิจและอาชีพตัวแทนประกัน ทางด้านภาครัฐคือกรมการประกันภัย ก็มักจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ รอให้มีการร้องเรียนจากผู้บริโภคมาก่อน จึงค่อยมาจัดการเป็นเรื่องๆ เป็นคราวๆ ไป ไม่ค่อยมีแนวทางในการแก้ปัญหาระยะยาว หรือแก้กันที่ต้นเหตุ อย่างเรื่องของการให้ความรู้กับประชาชน ให้สามารถรู้เท่าทันตัวแทนที่จะมาหลอกขายประกันได้ เป็นต้น"

คุณไตรภพยังแสดงความคิดเห็นอีกว่า หากจะให้นิยามอาชีพตัวแทนประกันแล้ว คงต้องบอกว่าอาชีพขายประกันเป็นอาชีพแห่งการเป็นผู้ให้ ถึงแม้จะไม่ใช่การให้ที่คนทั่วไปสามารถมองเห็นคุณค่าได้อย่างชัดเจนเหมือนอาชีพอื่นก็ตาม ยกตัวอย่างงานกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นงานที่ตน ทำก่อนหน้านี้ อาจจะเป็นงานที่มีศักดิ์ศรี สามารถช่วยผู้ป่วยได้ แต่ถ้าผู้ป่วยเสียชีวิตก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ในขณะที่ธุรกิจประกันสามารถช่วยเหลือ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาทางการเงินให้กับครอบครัวของผู้เอาประกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้

"ศักดิ์ศรีของเราอยู่ที่ความผูกพัน การให้บริการที่ดีกับลูกค้า เป็นศักดิ์ศรีที่ยั่งยืนอยู่ภายในใจของเราเอง" นั้นคือเสียงจากชายคนหนึ่ง ที่เห็นสิ่งสำคัญในบางสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น และมุ่งหวังจะทำให้ทุกคนเข้าใจ รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญนั้นด้วย

สมัครเป็นตัวแืทนประกันชีวิต

ขอขอบคุณที่มา http://www.oknation.net/blog/triphopp/2007/09/08/entry-1

 
QR CODE Facebook
Twitter
Since 19.10.09
You are here: Home นักธุรกิจประกันชีวิต แม่แบบนักธุรกิจประกันชีวิต ผู้เลือกเดินบนเส้นทางขายประกันชีวิต