SUPREME 24

   
ตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ
  บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดย คุณรุ่งนภา สดงาม
สนใจร่วมกับทีมงานตัวแทนประกันชีวิต มืออาชีพ บริหารงานโดย คุณรุ่งนภา โทร. 086-3341466

คิดดี ทำดี...ความสำเร็จดีๆก็บังเกิด โดย อำนาจ รัตนบัญญติ

E-mail Print PDF

คิดดี ทำดี...ความสำเร็จดีๆก็บังเกิด

ความสำเร็จของคนเรา อยู่ที่ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคน” คุณอำนาจ รัตนบัญญติ ผู้บริหารภาคอาวุโส บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต คืออีกผู้หนึ่งที่มีประวัติความเป็นที่สามารถนำมาขยายความประโยคคำพูดด้านบนได้เป็นอย่างดี

ซึ่งวันนี้ “คุณอำนาจ” ได้ให้เกียรติหนังสือพิมพ์เส้นทางนักขาย มาร่วมพูดคุยบอกเล่าประสบการณ์ในการทำงานต่างๆจนกระทั่งทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นเป็น ผู้บริหารภาคอาวุโสได้ด้วยระยะเวลาไม่นาน “คุณอำนาจ” พร้อมและยินดีที่จะยกเอาประวัติความเป็นมาของตน ให้เป็นแบบอย่างกับรุ่นน้องหรือผู้ที่ต้องการก้าวเข้าสู่ถนนแห่งการแสวงหาสายนี้ เฉกเช่นเดียวกับเขาที่ได้เดินผ่านมาแล้ว โดยมี “ธรรมะ” เป็นอาวุธลับนำพาความสำเร็จ

 

 

“อุปสรรคที่ทำให้คนหันหลังให้กับการประกันนั้นมาจากตัวแทนประกันชีวิต    
ที่นำไปเสนอขายนั้นทำให้คนรู้สึกว่าการประกันเป็นสิ่งที่ไม่ดี...เรื่องน่ารังเกียจ  
แต่สำหรับผมประกันชีวิตเป็นสิ่งที่สวยงาม...สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเริ่มงาน 
ตัวแทนประกันชีวิตไม่ใช่เรื่องรายได้ แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ผมอยากจะช่วยคน
โดยเอาสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาจากการอบรมไปช่วยคนที่ผมรู้สึกห่วงใย”


ก่อนก้าวเข้าสู่มาร่วมงานกับ บมจ. อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต

“ผมได้ทุนของรัฐบาลไทยไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ เมื่อจบแล้วผมจึงกลับมาเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผมสอนหนังสืออยู่ 7 ปี จากนั้นก็ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว รับตกแต่งภายในบ้าน ซึ่งการทำธุรกิจของผมก็ดำเนินไปด้วยดีเสมอมา ผมมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีเสมอมา จนกระทั่งช่วงหลังผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีการใช้ชีวิตประจำวันไม่ค่อยเหมาะสม นั้นแปลว่า เมื่อผมหาเงินได้มากผมก็ใช้เงินในการจับจ่ายใช้สอยออกไปเยอะเช่นกัน ผมใช้เงินซื้อความสุขเหมือนๆคนทั่วๆไป ไม่ค่อยสนใจเรื่องอะไรรอบตัวมากสักเท่าไร จนกระทั่งน้องชายของผมมาแนะนำให้ผมรู้จักธรรมะ ซึ่งน้องชายคนนี้เป็นเพื่อนเที่ยวกับผมอยู่เป็นประจำ แต่อยู่ๆเขาก็กลายเป็นคนชอบทำบุญ ชอบฟังธรรมะ ผมก็เกิดความสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ช่วงแรกๆก็มีคิดว่าเขาทำตัวแปลกๆแต่มาช่วงหลังๆผมเริ่มรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรดีๆสิ ถึงทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ พอถามเขาก็เขาก็แนะนำให้รู้จัก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เขาให้ผมฟังเทปคำสอนของท่าน ครั้งแรกที่ผมได้ฟังก็รู้สึกเหมือนโดนตีแสกหน้าเลยครับ ผมได้มานั่งคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา ที่ผมใช้ชีวิตอย่างไร้สาระอยู่เป็นเวลานานเท่าไร เพราะจริงๆแล้วชีวิตคนเรามีแก่นสาร ผมเป็นคนพุทธแท้ๆแต่เมื่อก่อนผมไม่เคยรู้ว่าพุทธศาสนาจริงๆแล้วคืออะไร จากนั้นเป็นต้นมาผมก็เริ่มศึกษาพระธรรมและปฏิบัติธรรมเรื่อยมา”

ด้วยนิสัยความที่เป็นคนทำอะไรก็ต้องทำให้ถึงที่สุด จากเมื่อก่อนที่ “คุณอำนาจ” ใช้ชีวิตแบบทำทุกอย่างโดยที่ยึดตนเป็นที่ตั้ง เที่ยว กินใช้จ่ายทุกอย่างตามใจตน ก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นเข้าวัดปฏิบัติธรรม “คุณอำนาจ” กล่าวว่าตั้งแต่เริ่มปฏิบัติธรรมก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจทำเสมอมา ร่วมถึงการได้มารู้จักกับธุรกิจประกันชีวิต

“ในช่วงแรกผมมีความรู้สึกต่อประกันชีวิตในแง่ลบ ถึงผมจะซื้อประกันชีวิตไว้ แต่นั้นก็เป็นการซื้อเพื่อต้องการเอามาหักค่าภาษีเท่านั้น และตัวผมเองก็เคยถูกตัวแทนกระทำตัวไม่เหมาะสมกับหน้าที่ เช่น มาเสนอขายประกันให้ผมอีกแบบหนึ่ง แต่พอผมตัดสินใจซื้อประกันเขากลับทำอีกแบบหนึ่งให้ผมแทน จึงทำให้ผมเกิดมีภาพที่ลบกับตัวแทนประกันชีวิต แต่พอผมได้มีโอกาสมารู้จักกับ คุณพรรษ์ธีรา ทวีวัชต์วรโชติ (AVP) ที่ให้โอกาสผมได้เข้ามาศึกษาธุรกิจประกันชีวิต ศึกษางานตัวแทนประกันชีวิต เพราะที่ผ่านมาผมซื้อประกันไว้เยอะแยะแต่ผมไม่รู้เลยว่าประกันชีวิตสามารถทำอะไรได้บ้าง เวลาตัวแทนอธิบายผมก็ไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่พอผมได้เข้ามาศึกษาด้วยตัวของผมเองเป็นเวลา 5 เดือนเต็มๆที่ผมสอบเป็นตัวแทนและเข้ามาศึกษาเรื่องราวของประกันชีวิตเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ขายประกันชีวิตให้ใครเลย เพราะผมแค่อยากรู้จักการประกันชีวิตและจะนำมาซื้อประกันให้ตัวเองและครอบครัวเท่านั้น บวกกับผมรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถไปเสนอขายประกันกับใครได้ แต่พอเข้ามารู้จักกับการประกันชีวิตจริงๆ ผมจึงรู้ว่าการประกันชีวิตจริงๆแล้วเป็นสิ่งที่ดี ทุกคนควรมีประกัน เพียงแต่อุปสรรคที่ทำให้คนหันหลังให้กับการประกันนั้นมาจากตัวแทนประกันชีวิตที่นำไปเสนอขายนั้นทำให้คนรู้สึกว่าการประกันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ตัวแทนบางคนเท่านั้นที่ทำให้การประกันชีวิตเป็นเรื่องน่ารังเกียจ แต่สำหรับผมประกันชีวิตเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่นั้นยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเริ่มงานตัวแทนประกัน สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเริ่มงานตัวแทนประกันชีวิตไม่ใช่เรื่องรายได้ แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ผมอยากจะช่วยคนโดยเอาสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาจากการอบรมไปช่วยคนที่ผมรู้สึกห่วงใย”

“คุณอำนาจ” ตัดสินใจก้าวเข้าสู่ธุรกิจประกันชีวิตอย่างเต็มตัว โดยที่เขายอมละทิ้งทำธุรกิจส่วนตัว นั้นเป็นเพราะ “คุณอำนาจ” ต้องการที่จะทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานตัวแทนประกันชีวิต และไม่อยากเอาเปรียบลูกค้าโดยการจับงานทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน แต่ไม่สามารถทำงานทั้งสองให้ออกมาดีได้ ซึ่ง “คุณอำนาจ” มีความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นไว้ว่าเขาจะต้องเป็นตัวแทนประกันชีวิตที่ดีของธุรกิจประกันชีวิต


กลยุทธ์การกำจัดความท้อแท้

“มนุษย์เราไม่มีช่วงไหนที่จะรู้สึกว่าตัวเองนั้นมีความสุขที่สุดหรือมีความที่ทุกข์สุดๆ ทั้งหมดอยู่ที่เราจะควบคุมมันได้หรอไม่ แต่สำหรับผมสามารถควบคุมมันได้ครับ ผมจึงไม่ทุกข์ไปกับมันด้วย ไม่ว่าผมจะทุกข์แค่ไหนผมก็ยังทำงานได้ ในขณะที่บางคนเจออะไรที่ร้ายแรงคล้ายๆผม เขาจะทำงานไม่ได้เลย แต่สำหรับผมทำได้ เหนื่อยผมก็ทำ ทุกข์ผมก็ทำ สุขผมก็ทำ เพราะผมรู้ว่าผมต้องทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดเท่านั้น ในเมื่อผมต้องการเป็นตัวแทนที่ดี ผมก็ต้องทำให้ดีที่สุดตามที่พูด เพราะผมคิดว่าผมควรจะเคารพสิ่งที่ตัวผมเองได้ให้สัญญากับตัวเองไว้ ช่วงแรกที่คนรอบข้างของผมเขารู้ว่าผมตัดสินใจมาเป็นตัวแทน เขาก็ไม่เข้าใจว่าผมทำแบบนั้นทำไม ทำไมทิ้งอาชีพที่มั่นคงอย่างอาชีพอาจารย์ ทิ้งความรู้ที่ร่ำเรียนมาไปเป็นตัวแทนขายประกัน ผมจึงตอบเขาไปว่า อาจารย์ที่ดีนั้นมีอยู่เยอะแล้ว แต่ตัวแทนประกันชีวิตที่ดีนั้นยังมีอยู่น้อย เพราะฉะนั้นจะดีกว่าไหมถ้าผมจะผันตัวเองมาเป็นตัวแทนที่ดี และเปิดโอกาสให้คนรุ่นหลังมาเป็นอาจารย์ที่ดีแทนผม ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยฟังใคร แต่ถ้าเกิดสิ่งที่ผมคิดและไตร่ตรองด้วยปัญญาแล้ว และเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องผมก็ยังจะทำอย่างที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้ว่า ถ้าเราจะเชื่ออะไรให้ใช้ปัญญาไตร่ตรอง ซึ่งผมได้ใช้มันทุกครั้ง ผมจึงทำแล้วผมก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำเสมอมาครับ”


รูปแบบการทำงานของ “อำนาจ รัตนบัญญติ”

“ช่วงแรกที่ตัดสินใจ ผมก็มีการถามตัวเองก่อนเหมือนกันว่า จากที่เคยใช้เงินฟุ้งเฟ้อ ผมทำงานเหมือนๆคนอื่นที่เดือนหนึ่งมี 30 วัน วันที่ผมจะมีความสุขก็มีแค่วันเดียวคือวันที่เงินเดือนออก แต่ 29 วันที่เหลือผมทำงานด้วยความทุกข์เพราะผมอยากได้เงิน ผมมานั่งทบทวนดูก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นขาดทุน เพราะเพียงแค่ผมเอาเงินเดือนมาใช้จ่ายซื้อความสุขให้กับตัวเองได้เพียงแค่วันเดียว และก็ไม่ได้อะไรไปมากกว่านั้น แต่พอผมตัดสินใจมาทำงานนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นงานที่ผมทำแล้วมีความสุข ผมได้ออกไปบอกสิ่งดีๆทุกๆวัน ไม่ว่าเขาอยากจะรับฟังหรือไม่ แต่ผมก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ผมได้ออกไปพูด ทุกๆวันที่ผมทำงาน ผมมีความสุข เขาจะปฏิเสธหรือตอบรับนั้นไม่เกี่ยวกับผมแต่ผมมีความสุข ซึ่งแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองได้กำไรทั้ง 30 วันที่ทำงาน ไม่ต้องรอแค่เงินเดือนออกถึงจะมีความสุขได้” รางวัลการันตีความสามารถ

“ผมรู้สึกตัวเองเป็นคนโชคดีที่คิดบวกและเดินมาถูกทางจนทำให้ผมได้ตำแหน่ง Iron Man  ปี 2552 และปี 2553 ซึ่งเป็นรางวัลที่มีให้กับตัวแทนที่มีผลงานส่งติดต่อกันยาวนานที่สุดทั้งปี คือต้องมีผลงานออกมาตลอด 53 สัปดาห์ ต้องมี อาทิตย์ละ 1 เคสและต้องเป็นเคสที่ได้รับการอนุมัติ ถ้าขาดอาทิตย์ 1 ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่หมด, Centurion (ปี 2552), Master Builder (ปี 2553), Country Top 10 Leaders (ปี 2553), คุณวุฒิตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ปี 2552 , คุณวุฒิผู้บริหารตัวแทนใหม่ยอดเยี่ยม ประจำปี 2552    คุณวุฒิทั้งหมดเป็นรางวัลสำหรับคนทำงาน แต่รางวัลที่ผมได้กลับมาและรู้สึกภาคภูมิใจมากคือเวลาที่ผมไปหาลูกค้าแล้วลูกค้ากล่าวขอบคุณ ผมรู้สึกว่านี่สิคือรางวัลของผม”


วิธีการสร้างทีมแบบฉบับ “อำนาจ รัตนบัญญติ”

“การที่ผมจะขึ้นไปเป็นผู้นำใคร ผมต้องมีความรู้ที่แน่นพอเสียก่อน ดังนั้นผมจึงต้องศึกษาหาความรู้ให้ได้มากที่สุด ถึงแม้ว่าเบี้ยผมจะสามารถขึ้นตำแหน่งได้แล้วก็ตาม ผมต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้สอนรุ่นน้องได้ว่าต้องทำยังไง แต่พอถึงสิ้นปีแล้วความคิดผมเปลี่ยน เพราะตอนปีแรกที่เข้ามาทำผมมีลูกค้าอยู่ในมือแล้ว 300 กว่าราย 300 กว่ารายผมมานั่งคิดว่า ด้วย 1 สมองและ 2 มือของผม ต่อให้ผมดีแค่ไหน เก่งแค่ไหน ผมก็ช่วยคนได้แค่นี้ แต่ถ้าผมเปลี่ยนความคิดมาเป็น ผมจะต้องสร้างคนที่เหมือนกับผมหรือคิดเหมือนกับผมขึ้นมา ผมก็สามารถช่วยเหลือคนได้มากกว่าผมทำเพียงคนเดียว และสังคมก็จะน่าอยู่มากขึ้น ตอนนี้ผมเลยเปลี่ยนความคิดมาเป็นรีบสร้างทีมงานให้เร็วที่สุด”


เป้าหมายในอนาคตที่ตั้งใจไว้

“จุดมุ่งหมายของผมไม่ได้อยู่ที่การเป็น Of the year แต่จุดมุ่งหมายของผมอยู่สูงกว่านั้นครับ บางคนได้ยินก็คงว่าเป้าหมายผมสูงไป คือ 10 ปีนี้ผมต้องขึ้นเป็น CEO ของบริษัทให้ได้ การที่ผมอยากเป็น CEO จะทำให้ผมต้องเร่งสปีดการทำงานขึ้นไปตลอด ดังนั้นเวลาที่ทำงานคุณวุฒิต่างๆก็เป็นเหมือนจุดหนึ่งบนเส้นทางการทำงานที่ผมต้องเดินผ่านไป เพราะจุดมุ่งหมายของผมอยู่สูงกว่านั้น ผมจะเดินไปแบบรวดเดียว ไม่ใช่เดินแบบก้าวขึ้นบันได เพราะผมเป็นคนที่ทำอะไรต้องทำให้ถึงที่สุด"



อ้างอิง : นสพ.เส้นทางนักขาย ปีที่ 8 ฉบับที่ 182 ปักษ์หลัง ประจำวันที่ 16-30 มิถุนายน 2553

สมัครเป็นตัวแืทนประกันชีวิต

 
QR CODE Facebook
Twitter
Since 19.10.09
You are here: Home นักธุรกิจประกันชีวิต แม่แบบนักธุรกิจประกันชีวิต คิดดี ทำดี...ความสำเร็จดีๆก็บังเกิด โดย อำนาจ รัตนบัญญติ